content

วิธีจัดการความเครียดในยุคโควิด

เชื่อว่าช่วงนี้ใครหลายๆ คนน่าจะกำลังอยู่ในภาวะตึงเครียด กังวล เศร้า และหดหู่ กับข่าวสารเรื่องสถานการณ์โควิดภายในประเทศที่ยังคงแพร่ระบาดอยู่ รวมไปถึงเรื่องการจัดการวัคซีนที่ยังได้รับกันอย่างไม่ทั่วถึงด้วย

ถึงแม้ว่าการเสพข่าวหรือติดตามข่าวสารเรื่องโควิดที่ชวนให้ตึงเครียดมากๆ นั้น จะส่งผลให้สุขภาพจิตของเราถูกบั่นทอนไปทีละน้อยๆ จนอาจเกิดภาวะโรคซึมเศร้าตามมาทีหลังได้ แต่ครั้นจะไม่ติดตามข่าวสารอัพเดทเรื่องโควิดเลยก็คงเป็นไปไม่ได้จริงๆ ดังนั้น ในโพสต์นี้จึงจะขอมาแนะนำ “วิธีจัดการความเครียดในยุคโควิด” ให้ทุกคนได้ลองนำไปประยุกต์และปฏิบัติตามวิธีในแบบของตนเองกันดูนะคะ

◆◆วิธีจัดการความเครียดในยุคโควิด◆◆

ออกกำลังกายคลายเครียด

หากรู้สึกตัวว่ากำลังเครียดอยู่ การได้ลุกออกไปเดินยืดเส้นยืดสาย และหันเหความสนใจไปที่เรื่องอื่นบ้างก็พอจะช่วยลดความเครียดได้บ้าง แต่ถ้าหากมีเวลาช่วงหลังเลิกงาน หรือช่วงเวลาว่างอื่นๆ ที่พอจะจัดสรรได้ ก็อยากให้ทุกคนลองแบ่งเวลาไปออกกำลังกายอย่างจริงจังบ้าง อาจจะเลือกออกกำลังกายตามคลิปในยูทูปด้วยท่าง่ายๆ ก็ได้ สักอย่างน้อย 3-5 วันต่อสัปดาห์ วันละ 30 นาที ถ้าหากทำได้ก็จะยิ่งช่วยให้ทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจของเราแข็งแรงขึ้น จะทำอะไรก็คล่องตัวขึ้น แถมลดภาวะการเป็น Office Syndrome ได้ด้วยนะคะ

หากิจกรรมที่สนใจหรืองานอดิเรกที่ชอบ

หากรู้สึกเครียดมากๆ การได้ทำกิจกรรมหรืองานอดิเรกที่ชอบก็น่าจะช่วยทำให้เราลืมความกังวลหรือความหดหู่จากข่าวสารที่ได้เสพลงไปบ้าง

ถึงแม้ว่าในช่วงโควิดนี้ กิจกรรมหลายๆ อย่างอาจถูกจำกัดลงไปหรือไม่สามารถทำได้เช่นเดิม ก็อยากให้ทุกคนลองหากิจกรรมหรืองานอดิเรกที่น่าสนใจและสามารถทำได้ในช่วงนี้ดูค่ะ อาจจะเริ่มจากการดูหนัง ฟังเพลง ก่อนก็ได้ หรือจะเลือกอ่านหนังสือ เล่นเกม วาดรูป เรียนทำอาหาร ทำงานฝีมือ ปลูกต้นไม้ หรือจะเลือกทำกิจกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ก็ได้เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องไม่ลืมที่จะดูแลและป้องกันตัวเองจากโควิดให้ดีๆ ด้วยนะคะ

ให้อาหารและการนอนช่วยเยียวยาจิตใจ

หลายๆ คนอาจจะมองว่าการรับประทานอาหารไม่น่าจะมีส่วนช่วยอะไรได้มาก แต่รู้ไหมว่าการได้ทานอาหารอร่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมนูอาหารที่เราโปรดปรานเป็นพิเศษ จะยิ่งช่วยให้เราอารมณ์ดีขึ้น และช่วยคลายความกังวลและความเศร้าได้อย่างไม่คาดคิดเลยล่ะค่ะ

นอกจากนี้ การได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอหลังจากที่เกิดภาวะตึงเครียด ก็จะยิ่งช่วยให้เราได้รีเซ็ตสภาพอารมณ์และจิตใจได้เป็นอย่างดีด้วยนะคะ

เครียดมากนักก็ระบายออกมาบ้างก็ได้

หากลองทำมาทุกวิธีแล้ว ความเครียดก็ยังไม่ลดลง และนับวันมีแต่จะเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น การได้ระบายออกมาด้วยการเล่าปัญหาที่เจอให้คนในครอบครัว เพื่อนสนิท หรือคนรัก คนสนิทที่เราไว้ใจได้รับฟังบ้าง ก็น่าจะช่วยให้ความเครียดบรรเทาลงได้บ้าง ดี-ไม่ดี คนที่รับฟังเราเขาก็อาจจะมีไอเดียหรือวิธีการแก้ไขปัญหาที่ดีๆ มาแลกเปลี่ยนกันจนอาจจะพบเจอทางออกที่โอเคสำหรับเราด้วย 

เข้าพบจิตแพทย์ให้ช่วยวิเคราะห์และร่วมกันหาทางออก

ถ้าหากได้ระบายความเครียดให้คนรอบข้างไปแล้ว แต่สภาพจิตใจของเราก็ยังไม่ดีขึ้น จนถึงระดับที่เริ่มส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของตนเองและคนรอบข้าง ก็อยากแนะนำให้ลองเข้าพบจิตแพทย์ดูค่ะ ซึ่งในปัจจุบันนี้การเข้าพบจิตแพทย์นั้นเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง และไม่ใช่เรื่องน่าอายเหมือนเช่นสมัยก่อนอีกต่อไป

ทางจิตแพทย์จะช่วยรับฟังปัญหา วิเคราะห์อาการที่เกิดขึ้น และเลือกใช้วิธีบำบัดให้เข้ากับอาการของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย การทานยา การใช้คลื่นไฟฟ้ากระตุ้นสมอง หรือวิธีอื่นๆ ตามที่แพทย์เห็นสมควร

————————————————————-

และนี่ก็คือวิธีจัดการความเครียดในยุคโควิดที่อยากให้ทุกคนได้ลองไปปฏิบัติตามกันดูค่ะ ยังไงก็ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ทุกคนก้าวข้ามผ่านภาวะวิกฤตนี้ไปด้วยกันนะคะ และขอให้ทุกคนได้รับวัคซีนคุณภาพดีไวๆ ค่ะ 🙂