หลายๆ คนน่าจะคุ้นเคยกันดีว่า เราควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 2 ลิตร หรือประมาณวันละ 8 แก้ว เพื่อให้ได้ปริมาณน้ำที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
แต่รู้ไหมว่าที่จริงแล้วเรามีเคล็ดลับในการดื่มน้ำในแต่ละวันด้วยนะ ซึ่งนอกจากจะช่วยในเรื่องของผิวพรรณและระบบการขับถ่ายแล้ว ก็ยังมีส่วนช่วยให้น้ำหนักตัวลดลงได้เช่นกัน เพียงแค่ดื่มน้ำโดยแบ่งตามช่วงระยะเวลา 5 ช่วง ดังนี้
ช่วงที่ 1 เวลา 6.00-7.00 น.
เริ่มกันด้วยช่วงเวลาหลังตื่นนอนในตอนเช้า ขอแนะนำให้ดื่มน้ำก่อนมื้อเช้า 1 แก้ว เพื่อลดภาวะขาดน้ำหลังจากที่ไม่ได้รับน้ำมาตลอดทั้งคืน ซึ่งจะช่วยลดความข้นหนืดของเลือด ช่วยให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นลำไส้และช่วยให้ขับถ่ายได้คล่องขึ้น
ช่วงที่ 2 เวลา 8.00-9.00 น.
มาต่อกันช่วงที่ 2 ของวัน ให้ดื่มน้ำ 1 แก้ว หลังจากที่ทานมื้อเช้าไปแล้วประมาณ 15-20 นาที เพื่อให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ช่วยลดความอยากอาหาร และยังช่วยให้เรารู้สึกอิ่มเร็วขึ้นด้วยนะ
ช่วงที่ 3 เวลา 9.00-13.00 น.
ในช่วงเวลานี้ ขอแนะนำให้พยายามดื่มน้ำให้ได้ 3 แก้ว เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายต้องเผชิญกับแสงแดดและการสูญเสียเหงื่อ จึงจำเป็นต้องได้รับปริมาณน้ำอย่างเพียงพอ เพื่อช่วยลดการสูญเสียน้ำในระหว่างวัน และถ้าหากแบ่งมาดื่มก่อนทานมื้อเที่ยงประมาณ 15 นาที ก็จะยิ่งช่วยลดความอยากอาหารลงไปด้วย
ช่วงที่ 4 เวลา 13.00-17.00 น.
สำหรับช่วงเวลาหลังมื้อเที่ยง แนะนำให้ดื่มน้ำให้ได้ 2 แก้ว เพื่อช่วยป้องกันปัญหาผิวแห้ง แก้อาการกระหายน้ำ ซึ่งจะช่วยลดการสูญเสียน้ำจากการเจอแสงแดด รวมถึงการทำงานหรือการทำกิจกรรมในช่วงบ่าย
ช่วงที่ 5 เวลา 18.00-22.00 น.
มาถึงช่วงเวลาสุดท้ายของวันในตอนเย็น ควรดื่มน้ำให้ได้ 3 แก้ว ซึ่งจะช่วยชะล้างสิ่งตกค้างภายในลำไส้ อีกทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำขณะนอนหลับได้ด้วย
ถ้าทำได้ตามนี้ ก็จะทำให้ร่างกายได้รับน้ำในปริมาณ 10 แก้วต่อวัน ซึ่งก็เป็นปริมาณที่มากเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และถ้าหากทำได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากจะช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำแล้ว ก็ยังส่งผลดีต่อระบบขับถ่ายและช่วยให้ลดน้ำหนักได้ดียิ่งขึ้นด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก Sanook