กากกาแฟ (Ground coffee) เป็นส่วนที่เหลือจากการคั่วบดกาแฟหลังนำไปชงเป็นเครื่องดื่ม ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีใครหลายๆ คนต้องเผลอทิ้งเจ้ากากกาแฟนี้อย่างแน่นอน
อยากจะบอกว่า “อย่าเพิ่งทิ้งกากกาแฟหลังชงเสร็จนะ!!” เพราะแท้จริงแล้วกากกาแฟนั้นมีประโยชน์มากกว่าที่เราคิด ทั้งทางด้านเกษตร การบำรุงรักษาบ้านและครัว รวมไปถึงด้านความงามด้วย แต่สำหรับในโพสต์นี้ แอดจะขอพูดถึงเฉพาะประโยชน์ในด้านความงามกันค่ะ ว่าแล้วก็ไปอ่านพร้อมกันเลยดีกว่า
ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มยิ่งขึ้น
กากกาแฟ เมื่อนำมาขัดผิวจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เนียนนุ่มยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง โดยตอนขัดผิวให้นำกากกาแฟบดละเอียดที่ยังสะอาดอยู่มาตากให้แห้งแล้วเก็บใส่โหลไว้ เวลาใช้ให้นำกากกาแฟออกจากโหลแล้วนำมาผสมกับน้ำ นม น้ำมันมะพร้าว หรือจะเลือกใช้เป็นน้ำผึ้งก็ได้ ผสมจนได้ลักษณะเป็นครีมหนืดๆ แล้วนำมาขัดถูตามส่วนต่างๆ ของร่างกายให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ทิ้งระยะห่างการขัดประมาณ 3-4 วันต่อครั้ง โดยหลีกเลี่ยงการขัดในส่วนที่บอบบาง
ช่วยลดการเกิดเซลลูไลท์ตามผิวหนัง
กากกาแฟสามารถช่วยลดการเกิดเซลลูไลท์ หรือเซลล์ไขมันที่สะสมอยู่ตามใต้ชั้นผิวหนังได้ เพียงนำกากกาแฟมาผสมกับดิน น้ำ หรือน้ำมันมะพร้าว แล้วขัดตรงบริเวณที่มีเซลลูไลท์ประมาณ 10 นาที สัปดาห์ละ 2 ครั้ง
ช่วยบำรุงรากผม
ก่อนสระผมลงแชมพู ให้นำกากกาแฟมานวดลงบนหนังศีรษะเล็กน้อยประมาณ 1 นาที แล้วล้างออก จะช่วยทำให้เลือดบนหนังศีรษะไหลเวียนได้ดี ลดความเสียหายของรากผมจากการทำสีบ่อยๆ และช่วยเพิ่มอัตราการเติบโตของเส้นผมด้วย
ช่วยลดขอบตาดำคล้ำ
กากกาแฟมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์และสารคาเฟอีน ซึ่งมีส่วนช่วยลดขอบตาดำคล้ำได้ วิธีบำรุงก็ง่ายมาก จะนำผ้าขาวบางห่อกากกาแฟไปแช่น้ำอุ่นหรือนำน้ำเย็นแล้วนำมาประคบรอบดวงตาประมาณ 30 นาที แล้วค่อยเช็ดล้างทำความสะอาดกันตามปกติ หรือจะนำกากกาแฟไปผสมน้ำและน้ำมันมะพร้าวเล็กน้อยจนได้เนื้อครีมเข้มข้นแล้วทาตรงบริเวณขอบตา ทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วล้างออก ถ้าทำเป็นระจำทุกวันก็จะช่วยรักษาผิวรอบดวงตาที่หมองคล้ำได้
ขอบคุณข้อมูลจาก